ป้าเจี๊ยบเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสภาคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทยค่ะ
ในการประชุมครั้งที่ 2/2553 มีกิจกรรมหนึ่งที่บรรจุอยู่ในวาระคือ การศึกษาดูงานจัดการศึกษาที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (ก่อนหน้านี้มีการเดินทางไปฟินแลนด์ แล้วก็นิวซีแลนด์ ป้าเจี๊ยบไม่ได้ไป แต่พบข้อสังเกตว่าตั้งแต่ผล PISA ประกาศว่านักเรียนฟินแลนด์ได้คะแนนสูงสุด หน่วยงานการศึกษาไทยก็จัดทัวร์มุ่งไปฟินแลนด์กันหลายคณะ) โดย ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ คณบดีคณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ช่วยจัดการให้ เป็นการเดินทางไปโดยรถยนตร์ระหว่างวันที่ 16-18 มีนาคม 2553
สำหรับรายการเวียดนามนี้ ป้าเจี๊ยบร่วมไปด้วยค่ะ สนใจอยากทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านรายนี้มาก เพราะมีแนวโน้มว่าจะแซงไทยในไม่ช้า สัปดาห์ที่แล้วก็ไปพัวพันกับชาวมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาวด้วย ป้าเจี๊ยบสนใจมากก็เพราะต้องการเตรียมตัวเองสำหรับการเปิดเสรีทางการค้าสาขาการศึกษาในปี 2015 ตามข้อตกลงอาเซียน กะไว้ว่าประเทศในอาเซียนทั้งหมดนั้น จะต้องหาโอกาสไปทำความรู้จักแบบเจาะลึก ดูทีท่า ซึมซับบรรยากาศของคน ของศิลปะวัฒนธรรม ของความเป็นอยู่ ของสภาพแวดล้อม และอื่นๆสารพัดสารเพ เพื่อที่จะ “รู้เขา” บ้าง ไม่ใช่ "รู้จากการอ่าน" เท่านั้น
เป้าหมายคือมหาวิทยาลัยดานัง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของมหาวิทยาลัยระดับภูมิภาค (Regional university) ในประเทศนี้ สำหรับระดับชาตินั้นมี 2 แห่ง แห่งหนึ่งอยู่ที่ฮานอย อีกแห่งอยู่ที่โฮจิมินท์ซิตี้ ประเทศนี้มีมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชนรวมกันประมาณ 400 กว่าแห่ง
มหาวิทยาลัยดานังเกิดขึ้นจากการรวมตัวของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย ในปี 2553 นี้มี 8 แห่ง ป้าเจี๊ยบว่าคล้ายๆ กำเนิดของมหาวิทยาลัยนครพนมมากที่สุด ทั้งแปดแห่งนี้ เปรียบกับบ้านเราก็คือวิทยาเขตต่างๆ แต่การบริหารงานแตกต่างไปจากมหาวิทยาลัยในเมืองไทยค่ะ เพราะมีทั้งที่เรียกตัวเองว่า College ได้แก่ วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ วิทยาลัยภาษาต่างประเทศ (เปิดสาขาวิชาภาษาไทยด้วย) วิทยาลัยการศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยี วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาเขตที่เรียกตัวเองว่า University คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยดานัง (อันนี้มี 2 แห่ง อยู่ในเมืองดานังกับเมือง Kon Tum ส่วนวิทยาเขตที่เรียกว่า Faculty คือ คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งเป็นน้องใหม่เพิ่งเข้ามาร่วม
แต่ละวิทยาเขตก็คล้ายๆ จะปกครองตนเองเพราะอยู่ห่างๆ กันไป ตำแหน่งสูงสุดของแต่ละวิทยาเขตคือ อธิการ (Rector) ส่วนตำแหน่งสูงสุดของมหาวิทยาลัยที่ดูแลทั้ง 8 แห่งคือ อธิการบดี (President) ซึ่งไม่ได้มาต้อนรับพวกเราแต่อย่างใด ส่งรองอธิการบดีชื่อ “หูเหียน” มาพูดคุยด้วย หัวหน้าทีมของฝ่ายเราคือ รศ.ดร.ระพินทร์ โพธิ์ศรี รองประธานสภาคณบดีฯ ทำหน้าที่แทนประธานสภาฯ ที่ไม่ได้มาด้วย เพราะป่วยกระทันหันค่ะ
ที่นี่ไม่มีสภามหาวิทยาลัย ไม่มีสภาวิชาการ แต่มีคณะกรรมการบริหารงานมหาวิทยาลัย เปิดสอนตั้งแต่อนุปริญญาไปจนถึงปริญญาเอก สาขาเด่นดังของที่นี่คือวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ นอกจากนั้นยังมีศูนย์วิจัยและศูนย์บริการวิชาการด้านต่างๆ อีก 17 ศูนย์ มีโครงการความร่วมมือกับหลายประเทศ รวมทั้งกับมหาวิทยาลัยของไทย
นี่คือภาพเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันค่ะ
ไม่มีความเห็น